fbpx

Ford RMA

4 สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนออกทริป Outdoor ตั้งแคมป์ เดินป่าก็หายห่วง

4 สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนออกทริป Outdoor ตั้งแคมป์ เดินป่าก็หายห่วง

4 สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนออกทริป Outdoor ตั้งแคมป์หรือเดินป่าก็หายห่วง

การไปแคมป์ปิ้ง หรือเดินป่า เป็นกิจกรรมเอาต์ดอร์ ที่ได้รับความนิยมตลอดทั้งปี แม้กระทั่งช่วงหน้าฝน คนที่รักการผจญภัยต่างก็ชื่นชอบ ที่จะได้ไปสัมผัสกับความชุ่มฉ่ำ เพราะการได้เปลี่ยนบรรยากาศ ออกไปเที่ยวชมธรรมชาติ ก็ถือเป็นการผ่อนคลายความเครียดได้เป็นอย่างดี มีเวลาเพียงช่วงสั้น ๆ อาจจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ก็สามารถเที่ยวได้แล้ว แต่การจะไปตั้งแคมป์ หรือเดินป่า ก็ควรจะต้องมีการเตรียมความพร้อม เพื่อให้ทริปของทุกคน เป็นไปด้วยความราบรื่น ซึ่งวันนี้เราก็มีคำแนะนำดี ๆ มาฝากกันอีกเช่นเคย 

1. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่จะไป

สิ่งแรกที่ต้องทำ คือเลือกสถานที่ที่จะไปทำกิจกรรม เพื่อศึกษาข้อมูล ว่าสถานที่นั้น ๆ มีลักษณะเป็นอย่างไร มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากน้อยแค่ไหน มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยให้หรือไม่ สภาพภูมิอากาศในช่วงที่จะเดินทาง มีฝนตกหรือคำเตือนหรือไม่ เพื่อจะได้เตรียมอุปกรณ์ไปให้พร้อมมากที่สุด เพราะหากขาดเหลืออะไร แล้วต้องไปหาซื้อตอนถึงแล้ว อาจจะอยู่ในจุดที่ห่างไกลจากร้านค้า ทำให้ไม่สะดวก

คำแนะนำสำหรับการเลือกสถานที่ สายแคมป์ปิ้ง ถ้าเป็นสายชิล ไม่ได้เน้นลุย หรือความสมบุกสมบันมากนัก ลานกางเต็นท์เอกชน จะตอบโจทย์มากกว่า เพราะส่วนใหญ่มักจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันอยู่แล้ว มีห้องน้ำ จุดต่อปลั๊กไฟ ร้านอาหาร รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ ที่คอยดูแลความปลอดภัย เรียกว่าแทบจะไม่ต้องขนอะไรไปเลยก็ได้

ส่วนสายเดินป่า แนะนำให้เลือกจากความชอบ ว่าชอบเดินป่าแบบใด เพราะแต่ละพื้นที่ ก็จะมีความงดงามของธรรมชาติ และความยากง่ายในการเดิน แตกต่างกันไป รวมไปถึงระยะเวลา ที่ต้องใช้ในการเดิน จากจุดเริ่มต้นไปยังจุดหมาย ก็เป็นปัจจัยสำคัญ ที่ต้องนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจอีกด้วย ส่วนใครชอบสายธรรมชาติอุทยานก็มีที่เที่ยวมากมาย

2. วางแผนการเดินทาง

เมื่อได้สถานที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งต่อมาก็คือ การวางแผนการเดินทาง เนื่องจากส่วนใหญ่ สถานที่ตั้งแคมป์ หรือเดินป่า มักจะอยู่ตามต่างจังหวัด ซึ่งใช้เวลาในการเดินทาง หากอยู่ในพื้นที่ห่างไกล หรือต้องเดินทางหลายต่อ ก็ควรจะเผื่อเวลาในการเดินทางให้มากขึ้น หากมีเวลาว่างไม่มากนัก แนะนำให้เลือกสถานที่ ที่อยู่ไม่ไกลมากนัก หรืออยู่ในจังหวัดของตัวเอง เพื่อจะได้ประหยัดเวลาเดินทาง และไม่ให้ร่างกายเหนื่อยล้าจนเกินไป

คำแนะนำสำหรับการวางแผนการเดินทาง สำหรับคนที่เดินทาง ด้วยรถโดยสารสาธารณะ จะต้องศึกษาเส้นทาง และเวลาให้บริการ เพื่อจะได้บริหารจัดการเวลา ให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นมากที่สุด สำหรับคนที่ขับรถยนต์ส่วนตัวไปเอง จะค่อนข้างได้เปรียบในการเดินทาง เพราะสามารถเลือกเวลาออกเดินทางได้ แต่ก็ควรจะวางแผนการเดินทางเอาไว้ล่วงหน้า รวมทั้งตรวจสอบสภาพ ความสมบูรณ์ของรถยนต์ ให้พร้อมใช้งาน ป้องกันรถเสียกลางทาง

3. เตรียมอุปกรณ์

ขั้นตอนการเตรียมอุปกรณ์ ถือว่ามีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะการออกไปเที่ยวนอกสถานที่ โดยเฉพาะการทำกิจกรรมผจญภัยในป่า หากเตรียมตัวไปไม่ดีพอ ก็อาจจะทำให้หมดสนุก และเป็นอันตรายได้ ซึ่งอุปกรณ์ในการไปตั้งแคมป์ ก็มีอยู่มากมาย แต่สิ่งสำคัญหลัก ๆ ที่ควรจะมี ได้แก่ เต็นท์ , ถุงนอน , อุปกรณ์ทำครัว , โต๊ะ/เก้าอี้พับได้ , โคมไฟ/ไฟฉาย , ปลั๊กไฟ , แบตเตอรี่สำรอง, อุปกรณ์สำหรับอาบน้ำ , ยาสามัญประจำบ้าน และอุปกรณ์ปฐมพยาบาล เป็นต้น แต่หากสถานที่ที่ไปตั้งแคมป์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันอยู่แล้ว ก็อาจจะไม่จำเป็น ควรนำไปเท่าที่จะต้องใช้จริง ๆ จะได้ไม่เป็นภาระในการขนย้าย 

สำหรับสายเดินป่า อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมไปด้วย ก็มีความคล้ายคลึงกัน แต่จะเพิ่มเติมในเรื่องของเสื้อผ้าและรองเท้า ที่ควรให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลา ในการเดินค่อนข้างนาน เสื้อผ้าจึงต้องเบาสบาย ระบายอากาศได้ดี หากเป็นช่วงหน้าฝน ก็ต้องเตรียมเสื้อกันฝนไปด้วย ส่วนรองเท้า ก็ต้องเลือกที่ยึดเกาะ รองรับแรงกระแทกได้ดี และสามารถกันน้ำได้ รวมไปถึงไม้เท้าเดินป่า เพราะจะช่วยพยุง และลดแรงกระแทก ระหว่างออกเดิน

คำแนะนำสำหรับการเลือกอุปกรณ์ เต็นท์ ควรเลือกขนาดกะทัดรัด เหมาะสมกับการใช้งาน มีความแข็งแรงทนทาน ใช้วัสดุคุณภาพดี สามารถทนแดด และลมฝนได้ดี สำหรับโต๊ะ/เก้าอี้พับได้ ควรเลือกโต๊ะที่มีความแข็งแรง แต่น้ำหนักเบา พับเก็บง่าย และไม่กินพื้นที่มากนัก 

4. เตรียมร่างกายให้แข็งแรง

การออกไปทำกิจกรรม แนวผจญภัย ร่างกายที่แข็งแรง คือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะเมื่อต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อม ที่เปลี่ยนแปลงไป การเดินเท้าติดต่อกัน เป็นเวลานานหลายชั่วโมง หรือในบางครั้ง ต้องรับมือ กับสภาพดินฟ้าอากาศ ที่ไม่เป็นใจ หากล้มป่วยกลางทาง อาจจะเกิดอันตรายขึ้นได้ โดยเฉพาะหากอยู่ในพื้นที่ อันห่างไกล การเตรียมร่างกายให้พร้อม ก่อนออกเดินทาง สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการออกกำลังกาย ทั้งการเดิน วิ่ง หรือเต้น การรับประทานอาหาร ที่มีประโยชน์ เพื่อสร้างภูมิต้านทาน ให้ร่างกาย รวมถึงการฉีดวัคซีน ป้องกันโรคต่าง ๆ ก็เป็นเรื่องจำเป็นไม่แพ้กัน

คำแนะนำสำหรับการป้องกันไข้เลือดออก ยุงลาย เป็นสัตว์ที่พบได้อย่างชุกชุม โดยเฉพาะในป่า และพื้นที่ธรรมชาติ การไปตั้งแคมป์ หรือเดินป่า จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะถูกยุงกัด ซึ่งอาจนำมาสู่ โรคไข้เลือดออกได้ ซึ่งถือได้ว่ามีความอันตราย ถึงชีวิตเลยทีเดียว โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่มีโรคประจำตัว มักจะมีอาการรุนแรง และมีอัตราการเสียชีวิต มากกว่ากลุ่มอื่น ๆ ดังนั้นก่อนออกเดินทาง ไปทริปเอาต์ดอร์ การฉีดวัคซีน ป้องกันไข้เลือดออก จึงเป็นตัวเลือก ที่ไม่ควรมองข้าม 

สำหรับอาการ ของโรคไข้เลือดออก มักจะมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดกระบอกตา คลื่นไส้อาเจียน โดยจะมีอาการประมาณ 5-7 วัน หลังจากนั้นมักหายได้เอง แต่ในช่วงที่ไข้ลด จะสามารถเกิดอาการรุนแรง เกล็ดเลือดต่ำ มีเลือดออก ความดันต่ำ หรืออาจมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้

สำหรบวัคซีน ไข้เลือดออก ในประเทศไทย เป็นวัคซีนชนิด เชื้อเป็น อ่อนฤทธิ์ ไม่สามารถให้ใน หญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องได้ มีอยู่ 2 ชนิด ได้แก่ 

1. วัคซีน CYD-TDV (Dengvaxia®) : สามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6-45 ปี ต้องฉีดทั้งหมดจำนวน 3 เข็ม ระยะเวลาห่างกัน อย่างน้อย 6 เดือนต่อเข็ม มีประสิทธิภาพ ในการป้องกันการนอนโรงพยาบาล จากไข้เลือดออกประมาณ 66% ในช่วง 4 ปี ทั้งนี้หากเคยติดเชื้อไข้เลือดออกมาก่อน อาจจะต้องตรวจเลือดก่อนฉีดวัคซีน

2. วัคซีน TAK-003 (Qdenga®) : สามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 4-60 ปี ต้องฉีดทั้งหมดจำนวน 2 เข็ม  ระยะเวลาห่างกัน อย่างน้อย 3 เดือน มีประสิทธิภาพ ในการป้องกันการนอนโรงพยาบาลจากไข้เลือดออก 90% ในช่วง 4.5 ปี โดยไม่จำเป็นต้องติดเชื้อไข้เลือดออกมาก่อน

ลงทะเบียนรับส่วนลด

0
    ตะกร้าสินค้า
    ตะกร้าสินค้าว่างเปล่ากลับสู่ร้านค้า
    Chat with us!
    Instagram