5 จุดเด่น Ford Ranger XL+ แข็งแรงต่อทุกสภาพถนน
Ford Next Gen Ranger XL+ ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ไปอีกขั้น ตอบสนองทุกความต้องการใช้งานจริง การออกแบบอันน่าทึ่งและดุดันสร้างขึ้นเพื่อให้ทนทานต่อทุกสภาพถนน มั่นใจได้ถึงความทนทาน อีกทั้งยังมอบความสะดวกสบายและปลอดภัยด้วยระบบเทคโนโลยีขั้นสูงที่บูรณาการทั่วทั้งตัวรถ ห้องโดยสารได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีล้ำสมัยรวมถึงระบบสั่งการ SYNC 4A ทำให้สามารถสื่อสารได้อย่างราบรื่น
นอกจากนี้ เรนเจอร์ XL+ ยังมีระบบความบันเทิงครบวงจร ยกระดับประสบการณ์การขับขี่โดยรวม จุดเด่น Ford Ranger XL+ ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ล้ำหน้า ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของรุ่นต่างๆ เนื่องจากฟอร์ดเข้าใจดีว่าทุกคนมีไลฟ์สไตล์และการใช้งานรถเป็นของตัวเอง ความแตกต่างที่โดดเด่นประการหนึ่งคือขนาดของรถกระบะ เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่ารถบรรทุกที่กว้างกว่าจะมีห้องโดยสารที่แคบกว่า การออกแบบนี้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ทนทาน ในทางกลับกัน รุ่นที่มีกระบะแคบกว่าจะมีห้องโดยสารที่กว้างขึ้น ให้ความสะดวกสบายเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญ
จุดเด่น Ford Ranger XL+ หลักที่นำมาฝากกัน 5 ข้อ
- การออกแบบภายใน
- เครื่องยนต์เร็วแรง
- พวงมาลัยไฟฟ้า
- จอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาดใหญ่
- ความปลอดภัย
1. การออกแบบภายใน
ภายในห้องโดยสารสีเข้ม XL+ ให้ความรู้สึกถึงความแข็งแกร่งและความทนทาน ในขณะเดียวกันก็มอบความสะดวกสบายที่เหนือชั้นในทุกการเดินทาง ก้าวเข้าสู่ภายในและถูกโอบล้อมด้วยออร่าแห่งความหรูหรา ด้วยโทนสีเข้มที่ประดับห้องโดยสารอย่างหรูหรา ทุกองค์ประกอบได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อความสมบูรณ์แบบ ทำให้มั่นใจได้ถึงความสวยงามที่ไร้รอยต่อและโดดเด่นสะดุดตา
2. เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร
นอกจากนี้จุดเด่น Ford Ranger XL+ ยังมาพร้อมกับ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยวให้กำลัง 170 แรงม้า ให้คุณสามารถเร่งความเร็วได้ดังใจต้องการ
คุณลักษณะเฉพาะอย่างหนึ่งของรุ่น XL+ คือตัวถังที่ยกสูง (Hi-Rider) พร้อมด้วยบันไดข้างที่สะดวกสบาย นอกจากนี้จุดเด่น Ford Ranger XL+ ยังมาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วที่สะท้อนสุนทรียะร่วมสมัย ล้อสีดำมันวาวขนาด 16 นิ้วเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมรูปลักษณ์โดยรวมของรถ แต่ยังเพิ่มความสง่างามและความซับซ้อนชวนให้นึกถึงฟอร์ดอีกด้วย
3. พวงมาลัยไฟฟ้า
ระบบการขับขี่แบบไฟฟ้ามอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายและช่วยลดความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่
4. จอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 10.1 นิ้ว
ระบบคำสั่ง SYNC® 4A ให้การเชื่อมต่อที่ราบรื่นเพื่อการสื่อสารที่ง่ายดาย โดดเด่นด้วยระบบความบันเทิงครบวงจรที่เสริมด้วยเทคโนโลยี Multi-Touch พร้อมจอแสดงผลขนาดกว้างขวาง 10.1 นิ้ว นอกจากนี้ รุ่น XL+ SPORT ยังมาพร้อมกับหน้าจอสี Multi-Touch ขนาด 8 นิ้วสุดพิเศษ ช่วยให้การเดินทางสนุกยิ่งขึ้น ด้วยระบบคำสั่ง SYNC 4A การเชื่อมต่อกับช่องทางการสื่อสารต่างๆ เป็นเรื่องง่าย พร้อมทั้งมอบประสบการณ์ความบันเทิงระหว่างขับขี่
5. ระบบความปลอดภัย
รุ่นนี้มีตัวเครื่องที่แข็งแกร่งทำจากอะลูมิเนียมและเหล็กกล้า อีกทั้งยังมีระบบกันสะเทือนแบบพิเศษที่ช่วยให้รถทรงตัวและรับมือกับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี
- รถจะมีระบบเบรกแบบดิสก์เบรก มาพร้อมกับ ABS, EBD และ EBA ซึ่งจะทำให้เบรกทำงานได้ดียิ่งขึ้น
- ส่วนหนึ่งที่ต้องพูดถึงเลยคือเรื่องของความปลอดภัยบนท้ายกระบะที่มีพื้นแบบใหม่ในรถกระบะที่ช่วยเก็บของไว้ด้านหลังที่รองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลายโดยสามารถจัดสัมภาระและยึดให้เป็นระบบเข้าที่ เพื่อความปลอดภัยของสิ่งของสัมภาระตลอดการเดินทางได้
- มีตัวห่วงและตะขอช่วยยึดของที่สามารถปรับตำแหน่งได้มากถึง 9 ตำแหน่ง
- ล่องยึดอุปกรณ์เสริมด้านข้างกระบะอีก 6 จุด
- นอกจากนี้บริเวณกระบะด้านท้ายมีจุดจ่ายไฟที่คุณสามารถเสียบปลั๊กสิ่งของที่ต้องใช้ไฟฟ้า แบบ 12 V กับ แบบ 400 วัตต์ ที่ต่อตรงออกมาจากด้านในรถ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลายและทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้
Next Gen Ranger XL+ นอกจากราคาจะเริ่มต้นเพียง 699,000 บาท เท่านั้น ยังมีสีสันให้เลือกเยอะมาก ได้แก่ สีขาว อาร์กติก ไวท์, สีดำ แอบโซลูท แบล็ก, สีเงิน อลูมิเนียม เมทัลลิก และสีน้ำเงิน บลู ไลท์นิ่ง โดย Next Gen Ranger XL+ โดยรุ่น XL+ มีทั้งหมด 2 รุ่นย่อย
Ranger Open Cab XL+ 2.0L Turbo HR 6MT
- กำลังสูงสุด – แรงม้า (กิโลวัตต์) / รอบต่อนาที 170 (125) / 3500
- ความสามารถในการลุยน้ำ (Water Wading) สูงถึง 800 มม.
- เครื่องยนต์ ดีเซล 2.0 ลิตร 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว เทอรโบชารจเจอรพรอมอินเตอร์คูลเลอร์
- ถุงลมนิรภัย คู่หน้า
- บันไดเหยียบข้างกระบะท้ายขึ้นลงกระบะแบบปลอดภัยมากขึ้นถูกออกแบบมาให้แข็งแรงและสะดวกต่อการใช้งานที่หลากหลาย
- พวงมาลัยไฟฟ้าและหน้าจอแสดงผลแบบดิจิตอลขนาด 8 นิ้วเพื่อการขับขี่ที่สบายมากยิ่งขึ้นลดความเมื่อยล้าด้วยระบบพวงมาลัยไฟฟ้า
- จอสีแบบสัมผัส Multi-T OK what is ouch ขนาด 10.1 นิ้วระบบสั่งงาน SYNC 4A เชื่อมต่อการสื่อสารได้อย่างง่าย
- พื้นที่กระบะกว้างขึ้นฐานล้อกว้างขึ้นกว่าเดิม 50 มม.
- นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มอุปกรณ์ตกแต่งเพื่อความสะดวกสบายในการขับขี่และใช้งาน อย่างเช่น ฝาปิดกระบะท้ายแบบไฟฟ้าสีดำ แผ่นกั้นกระบะอเนกประสงค์ แผ่นสไลด์บนกระบะท้าย หรือกล้องบันทึกวิดีโอหน้า-หลังรถ
Ranger Double Cab XL+ 2.0L Turbo HR 6MT
- กำลังสูงสุด – แรงม้า (กิโลวัตต์) / รอบต่อนาที 170 (125) / 3500
- ระบบบังคับเลี้ยว พาวเวอร์แบบช่วยผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ความสามารถในการลุยน้ำ (Water Wading) สูงถึง 800 มม.
- เครื่องยนต์ ดีเซล 2.0 ลิตร 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว เทอรโบชารจเจอรพรอมอินเตอร์คูลเลอร์
- จอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 8 นิ้ว
- ถุงลมนิรภัย 6 จุด คู่หน้า/ด้านข้าง/และม่านถุงลมนิรภัย
- นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มอุปกรณ์ตกแต่งเพื่อความสะดวกสบายในการขับขี่และใช้งาน อย่างเช่น ฝาปิดกระบะท้ายแบบไฟฟ้าสีดำ แผ่นกั้นกระบะอเนกประสงค์ แผ่นสไลด์บนกระบะท้าย หรือกล้องบันทึกวิดีโอหน้า-หลังรถ
สำหรับรถยนต์คันนี้ก็จะเป็นรถกระบะรุ่นถัดมาจากรุ่นเริ่มต้น ทั้งในด้านนวัตกรรมและฟีเจอร์ โดยจะมีจำหน่ายเฉพาะในรูปแบบที่ยกขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น รถคันนี้ได้รับการออกแบบโดยเน้นที่ฟังก์ชันการทำงานโดยเฉพาะ ตอบสนองความต้องการของบุคคลที่ต้องการยานพาหนะที่สามารถบรรทุกของหนัก
สรุปง่ายๆ จุดเด่น Ford Ranger XL+ก็คือเพิ่มเติมในส่วนของออฟชั่นเข้ามาให้เล็กน้อย และจะมาในรูปแบบยกสูงเท่านั้น โดยจะเป็นรถยนต์ที่เน้นการใช้งาน ได้รับการติดตั้งระบบกันสะเทือนที่แข็งแกร่งและระบบขับเคลื่ออเนกประสงค์ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกระหว่างตัวเลือกขับเคลื่อน 4 ล้อได้ สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถกระบะที่ทรงพลัง ใช้งานได้ยาวนาน และอเนกประสงค์ ซึ่งสามารถขับไปในทุกสภาพแวดล้อมได้อย่างง่ายดาย นอกจากนั้นแล้วรถคันนี้ยังนำเสนอในราคาที่สมเหตุสมผลเป็นพิเศษ ทำให้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างมาก
ขอบคุณข้อมูล : https://www.ford.co.th , https://youtu.be/0atvHla_m2Q?si=evhAwPO4oQ57z5Yf