รีวิว Ford Next-Gen Everest ยนตรกรรมอเนกประสงค์สำหรับครอบครัว
Ford Next-Gen Everest รถยนต์อเนกประสงค์ 2 รุ่น ที่มากความสามารถ ปลอดภัย แข็งแกร่งจากภายนอก สะดวกสบายจากภายใน มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ (Turbo) และ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ (Bi-Turbo) ครบครันทั้ง Entertainment และ Performance เปิดให้จับจองเป็นเจ้าของแล้วในงาน Bangkok International Motor Show 2022 (มอเตอร์ โชว์ ครั้ง ที่ 43) มี 2 รุ่นด้วยกัน Everest Sport และ Everest Titanium ราคา เริ่มที่ล้านต้นๆ
อุปกรณ์ และ เทคโนโลยีใหม่ใน Ford Next-Gen Everest 2022
ฟอร์ดเอเวอร์เรส รุ่น เทอร์โบ สปอร์ต
- เครื่องยนต์ 2.0 เทอร์โบแปรผัน (170/405)
- โหมดเลือกการขับขี่ 4 โหมด
- ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟวิ่งกลางวันแบบ LED รูปตัว C
- ไฟท้าย LED Signature
- ไฟตัดหมอกหน้า LED
- พวงมาลัยหุ้มหนัง ปรับ 4 ทิศทาง
- หน้าปัดดิจิตอลขนาด 8 นิ้ว
- SYNC 4A พร้อมหน้าจอสัมผัส ขนาด 10 นิ้ว
- Wireless Apple car play & Android auto
- Ford Pass Connect
- แท่นชาร์จไร้สาย + ช่อง USB 4 จุด
- เบรกมือไฟฟ้า
- เซ็นเซอร์หน้า และหลัง
ฟอร์ดเอเวอร์เรส รุ่น ไททาเนียม พลัส
- เกียร์ไฟฟ้าอัตโนมัติ E-Shifter
- ไฟหน้าแบบ Matrix LED พร้อมระบบปรับมุมลำแสงไฟอัตโนมัติ และระบบป้องกันไฟแยงตา
- ไฟวิ่งกลางวันแบบ LED รูปตัว C
- เบรคมือไฟฟ้า
- หน้าปัดดิจิตอลขนาด 12 นิ้ว
- พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง
- SYNC 4A พร้อมหน้าจอสัมผัส ขนาด 12 นิ้ว
- ช่องต่อไฟ 230V (400W)
- แท่นชาร์จไร้สาย / ช่อง USB Typc C หน้า+หลัง
- Adaptive Cruise Control แบบ Stop & Go และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง
- ระบบช่วยควบคุมรถหลังจากชน
- กล้อง 360 องศา
- ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง
- ระบบช่วยการหักพวงมาลัย
- ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ แบบFully Autonomous Parking
อ่านรีวิว Everest รุ่นเดิมเพื่อเทียบความแตกต่างได้ที่ : คลิก
ความแข็งแกร่งภายนอก
สีตัวถัง
| เปรียบเทียบมิติตัวถัง | Everest | Nex-Gen Everest 2022 |
|---|---|---|
|
ความยาว (ไม่รวมกันชนท้าย) / มม. |
4903 |
4914 |
|
ความกว้าง / มม. |
1869 |
1923 |
|
ความสูง / มม. |
1837 |
1842 |
|
ฐานล้อ / มม. |
2850 |
2900 |
|
ระยะต่ำสุดจากพื้น / มม. |
225 |
223 |
รุ่น Everest Turbo Sport
- ชุดแต่งภายนอกสีดำสปอร์ต
- ตัวอักษร Everest สีดำเงา ติดฝากระโปรงหน้า
- ไฟหน้าแบบ LED รีเฟลกเตอร์ พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- ไฟวิ่งเวลากลางวันและไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED
- ไฟท้ายแบบ LED Signeture
- ประตูด้านท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี
รุ่น Everest Bi-Turbo Titanium+
- ไฟหน้าแบบ Matrix LED พร้อมระบบปรับมุมลำแสงอัตโนมัติ
- ไฟวิ่งกลางวันและไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED
- ไฟท้ายแบบ LED Signature
- หลังคา Panoramic Moonroof
- ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี
ความสะดวกสะบายภายใน
รุ่น Everest Turbo Sport
- ชุดแต่งภายในสีดำสปอร์ต
- เบาะหนัง และ หนังสังเคราะห์สีดำลายสปอร์ต
- แท่นชาร์จไร้สาย
- หน้าจอสีแสดงผลแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 10.1 นิ้ว
- หน้าจอแสดงผลบนหน้าปัดแบบสีขนาด 8 นิ้ว
- รองรับ Wireless Apple CarPlay® และ Android Auto™
- ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ และ ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC® 4A
- ระบบ FordPass Connect
- ช่องต่อ USB 4 ตำแหน่ง
- ช่องต่อไฟ 12V 3 ช่อง
- ลำโพง 8 ตำแหน่ง
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา
- เบาะนั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- เบาะแถวที่ 3 พับได้
- กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ พร้อมช่องต่อ USB
รุ่น Everest Bi-Turbo Titanium+
- แท่นชาร์จไร้สาย
- หน้าจอสีแสดงผลแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว
- หน้าจอแสดงผลบนหน้าปัดแบบสีขนาด 12.4 นิ้ว
- รองรับ Wireless Apple CarPlay® และ Android Auto™
- ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ และ ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC® 4A
- ระบบ FordPass Connect
- ช่องต่อ USB 4 ตำแหน่ง
- ช่องต่อไฟ 12V 3 ช่อง พร้อมช่องต่อไฟ 230V 1 ช่อง
- ลำโพง 8 ตำแหน่ง
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา
- เบาะนั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- เบาะแถวที่ 3 พับไฟฟ้า
- กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ พร้อมช่องต่อ USB
- ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร
สมรรถนะ และ เทคโนโลยีในฟอร์ด เน็กซ์ เจเนอเรชั่น เอเวอร์เรส 2022
รุ่น Everest Turbo Sport
เครื่องยนต์ดีเซล เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ประหยัดน้ำมัน ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร แต่ให้กำลังสูงสุดถึง 170 แรงม้า (125 กิโลวัตต์) ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 405 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,250 รอบต่อนาที มาพร้อมเทอร์โบที่ทนต่อความร้อนสูง และใบพัดสามารถหมุนได้ 240,000 รอบต่อนาที
รุ่น Everest Bi-Turbo Titanium+
เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด เป็นเครื่องยนต์ขนาดเล็กแต่ให้กำลังสูงมากที่สุด 210 แรงม้า (155 กิโลวัตต์) ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที มาพร้อมเทอร์โบคู่ ช่วยลดอาการแล็คของเทอร์โบ ทำให้สามารถส่งกำลังได้อย่างต่อเนื่องไม่สะดุด และยังช่วยกันทำงาน ทำให้ได้อัตราเร่งในทุกรอบความเร็ว
อุปกรณ์ด้านความปลอดภัย
รุ่น Everest Turbo Sport
- ถุงลมนิรภัย 7 จุด คู่หน้า / ด้านข้าง / ม่านถุงลมนิรภัย / และถุงลมบริเวณหัวเข่า
- ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน
- สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและด้านหลัง
- กล้องมองหลังขณะถอยจอด
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบควบคุมสเถียรภาพการทรงตัว ESP และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี
- ระบบช่วยการออกตัวขณะถอยจอดบนทางลาดชัน HLA และระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM
- เบรกมือไฟฟ้า
รุ่น Everest Bi-Turbo Titanium+
- ถุงลมนิรภัย 7 จุด คู่หน้า / ด้านข้าง / ม่านถุงลมนิรภัย / และถุงลมบริเวณหัวเข่า
- ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน
- สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและด้านหลัง
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบควบคุมสเถียรภาพการทรงตัว ESP และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี
- ระบบช่วยการออกตัวขณะถอยจอดบนทางลาดชัน HLA และระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา HDC
- เบรกมือไฟฟ้า
Everest 2022 ราคา จำหน่ายอย่างเป็นทางการ
- Everest 2.0L Turbo Sport 4×2 6AT : 1,464,000 บาท
- Everest 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4×4 10AT : 1,854,000 บาท
สามารถอ่านรีวิว Ford Next-Gen รุ่นอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก : Ford Next-Gen Ranger , Ford Next-Gen Raptor
——————— Ford RMA ยินดีให้บริการ ———————
Hotline : 091-772-9899, 091-770-2177
ID Line : @fordrma.th
Link LINE : https://lin.ee/mmPcYDU
ติดต่อนับรถเข้าศูนย์บริการ : 02-407-0999
ฟอร์ดกัลปพฤกษ์ : 02-416-1555
ฟอร์ดพระราม4 : 02-713-6000
ฟอร์ดพระราม3 ศูนย์ซ่อมตัวถังและสี : 02-674-3600 , 086-3400832
ฟอร์ดพระราม5 : 02-432-6599
Google Map ฟอร์ดกัลปพฤกษ์ : https://bit.ly/3kzyvej
Google Map ฟอร์ดอาร์เอ็มเอ สาขาพระราม 4 : https://bit.ly/32OfK0T
Facebook : https://www.facebook.com/Cityfordrma/
Website : https://www.fordrma.com/
