Ford Everest 2022 ความแตกต่างแต่ละรุ่นย่อย (Next-Gen Everest 2022)
2022 เป็นปีที่รถ SUV ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หลายๆ คนอาจจะยังไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำว่า SUV แท้จริงแล้วย่อมาจาก Sports Utility Vehicle ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟสไตล์การงานได้อย่างอเนกประสงค์ และจุดเด่นที่ทุกคนต่างให้ความสนใจ คือ ตัวเครื่องแข็งแกร่ง สามารถลุยไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ แม้แต่ขับลุยแบบ off-road รถสายสปอร์ตเอาใจสายลุยจาก FORD ที่กำลังมาแรงในยุคนี้ Ford Everest 2022 คือคำตอบทุดสุดของรถ SUV จากฟอร์ด ที่สุดของสมรรถนะและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ด้วยการออกแบบช่วงล่างหนึบติดถนน ห้องโดยสารเรียบหรูคงความเป็นเอกลักษณ์ ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณกับ Next-Gen Everest
ทำความรู้จัก Ford Next-Gen Everest
เอกลักษณ์การออกแบบจากฟอร์ด ที่เห็นปุ๊ปแล้วรู้เลยว่านี่คือ Ford Everest 2022 ด้วยกระจังหน้ารถสีดำเข้มลักษณะเฉพาะ พร้อมตัวอักษร ‘EVEREST’ บนฝากระโปรงรถที่สวย ดุดัน สมเป็นฟอร์ด Next-Gen Everest มีทั้งหมด 2 รุ่น เอาใจไลฟ์สไตล์สายลุยที่แตกต่าง
Everest 2.0L Turbo Sport 4×2 6AT
- เครื่องยนต์และกำลังส่ง
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบชาร์จเจอร์พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์
- กำลังแรงม้าสูงสุด 170 แรงม้า ต่อ 3,500 รอบต่อนาที
- เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
- แรงบิดสูงสุด 405 นิวตัน-เมตร
- Chassis & Suspension แชสซีส์และระบบกันสะเทือน
- Double Wishbone พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง
- คอยล์สปริงพร้อมวัตต์ลิงค์และเหล็กกันโคลง
- ดิสก์เบรกหน้า พร้อมระบบระบายความร้อน และ ดิสก์เบรกหลัง
- Safety and Security ระบบความปลอดถัย
- ถุงลมนรภัย 7 จุดรอบคันรถ (คู่หน้า / ด้านข้าง / ม่านถุงลมนิรภัย / และถุงลมบริเวณหัวเข่า)
- กล้องมองหลังพร้อมเส้นบอกระยะทางและสัญญาณเตือนระยะการจอด
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
- ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM
- ระบบการจายแรงเบรกแบบ EBD และเบรกมือไฟฟ้า
- ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP
- ความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร
- แท่นชาร์จไร้สายพร้อมช่องชาร์จ 12V 3 ช่อง
- หน้าจอแสดงผลการขับขี่ขนาด 8 นิ้ว
- เบาะไฟฟ้าปรับได้ทั้งหมด 8 ทิศทาง
- เบาะหนัง และ หนังสังเคราะห์สีดำลายสปอร์ต
- กุญแจรีโมทอัจฉริยะพร้อมปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ
- Audio and Connectivity เครื่องเสียงและการเชื่อมต่อ
- เปิดประสบการณ์ด้วยลำโพง 8 ตำแหน่ง
- หน้าจอสัมผัสใหญ่จุใจ Multi-Touch ขนาด 10.1 นิ้ว
- รองรับ Wireless Apple CarPlay และ Android Auto™
- ระบบเชื่อมต่อบลูทูธอัตโนมัติ
- ระบบสั่งการด้วยเสียง SYNC 4A
Everest 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4×4 10AT
- เครื่องยนต์และกำลังส่ง
- เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว เทอร์โบชาร์จเจอร์คู่พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์
- กำลังแรงม้าสูงสุด 210 แรงม้า ต่อ 3,750 รอบต่อนาที
- เกียร์อัตโนมัติ Electronic Shifter 10 สปีด
- แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร / 1,750-2,000 รอบต่อนาที
- ขับเคลื่อนด้วย 4 ล้อ พร้อมระบบเลือกโหมดการขับขี่ 6 โหมด
- Chassis & Suspension แชสซีส์และระบบกันสะเทือน
- Double Wishbone พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง
- คอยล์สปริงพร้อมวัตต์ลิงค์และเหล็กกันโคลง
- ดิสก์เบรกหน้า พร้อมระบบระบายความร้อน และ ดิสก์เบรกหลัง
- Safety and Security ระบบความปลอดถัย
- ถุงลมนิรภัยรอบคันรถ 7 จุด (คู่หน้า / ด้านข้าง / ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่า)
- ระบบช่วยโทรฉุกเฉินในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP
- ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA และระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM
- ระบบสัญญาณเตือระยะการจอดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
- ควบคุมความเร็วขณะลงเขาด้วย ระบบ HDC
- เบรกมือไฟฟ้าและระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร
- จอแสดงผลการขับขี่ขนาด 12.4 นิ้ว
- แท่นชาร์จไร้สาย
- เบาะไฟฟ้าปรับได้ทั้งหมด 8 มิศทาง
- ปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติพร้อมกุญแจรีโมทอัจฉริยะ
- ความพิเศษของรุ่นนี้คือ ช่องต่อไฟ 230V 1 ช่อง
- กระจกมองหลังแบบปรัดแสงอัตโนมัติ
- ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- Audio and Connectivity เครื่องเสียงและการเชื่อมต่อ
- เปิดประสบการณ์ด้วยลำโพง 8 ตำแหน่ง
- หน้าจอสัมผัสใหญ่จุใจ Multi-Touch ขนาด 10.1 นิ้ว
- รองรับ Wireless Apple CarPlay และ Android Auto™
- ระบบเชื่อมต่อบลูทูธอัตโนมัติ
- ระบบสั่งการด้วยเสียง SYNC 4A
- ล้ำกว่าด้วยเทคโนโลยีขับขี่ขั้นสูง
- กล้องมองรอบคัน เห็นทุกทิศอย่าง 360 องศา
- ระบบตรวจจับสิงของหรือคนรอบคันรถ
- ระบบช่วยเบรกและคุมความเร็วอัตโนมัติ
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถกำลังออกนอกเลน
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าและควบคุมรถหลังจากชน
รูปลัษณ์ภายนอกที่แข็งแกร่ง
ด้วยการออกแบบที่ผ่านการคิดค้นมาจากผู้เชี่ยวชาญ ดีไซน์ของรถจึงเกิดตกผลึกของการออกแบบในที่สุด ฐานล้อกว้างและทรงตัวอย่างมืออาชีพยิ่งขึ้น พร้อมกับล้ออัลลอยสีดำขลับควบคู่กับล้อขนาด 20” ช่วยเพิ่มมิติความแกร่งและคล่องตัวให้กับ Ford Everest 2022 ห้องโดยสารกว้างขวาง เรียบหรู ตามสไตล์ห้องโดยสารจากฟอร์ด ทำให้การเดินทางไกลรู้สึกผ่อนคลายกว่าที่เคย โดดเด่นด้วยไฟหน้ารูปทรง C-Clamp ที่ออกแบบมาเพื่อรับกับรูปทรงกระจังหน้าอย่างลงตัว สีสันภายนอกหลากหลายเอาใจต่ละไลฟ์สไตล์ ประกอบด้วย
- Aluminum Metallic
- Meteor Grey
- Absolute Black
- Equinox bronze
- Snowflake White Pearl
- Sedona Orange
- Blue Lightning (เฉพาะ Everest Turbo Sport)
Ford Everest 2022 ความแตกต่างที่ลงตัว
สำหรับ Ford Everest 2022 ทั้งสองรุ่นนั้น ต่างก็มีความแตกต่างเป็นสไตล์ที่เป็นของตัวเอง แน่นอนว่าถ้าได้ลองทำความรู้จักกับ Ford Next-Gen Everest แต่ละรุ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณจะเห็นความแตกต่างของทั้งสอง Ford Everest Titanium เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์ที่ชอบความแรง ลุยไปทุกสภาพท้องถนน ด้วยแรงม้าที่มากกว่าถึง 210 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่จะทำให้สมรรถนะการขับขี่แร็ว แรง แต่ยังคงซึ่งไว้ความปลอดภัย สำหรับ Ford Everest Sport เหมาะกับทุกการใช้งาน เนื่องจาก Ford Everest 2022 เป็นรถ SUV ที่สามารถใช้งานได้อย่างเอนกประสงค์ทุกไลฟ์สไตล์
——————— Ford RMA ยินดีให้บริการ ———————
ติดต่อรับรถเข้าศูนย์บริการ : 02-407-0999
ID Line : @fordrma.th
Link LINE : https://lin.ee/mmPcYDU
ฟอร์ดกัลปพฤกษ์ : 02-416-1555
ฟอร์ดพระราม4 : 02-713-6000
ฟอร์ดราชพฤกษ์ พระราม5 : 02-432-6599
Google Map ฟอร์ดกัลปพฤกษ์ : https://g.page/FordKalpapruek?share
Google Map ฟอร์ดอาร์เอ็มเอ สาขาพระราม 4 : https://g.page/FordRama4RMA?share
Google Map ฟอร์ดราชพฤกษ์ พระราม5 : https://g.page/fordrama5?share
Facebook : https://www.facebook.com/Cityfordrma/
Website : https://www.fordrma.com/
