Ford Puma Gen-E รถไฟฟ้า EV เปิดตัวและเปิดจองแล้วที่ยุโรป
หลังจาก Ford Puma EcoBoost Hybrid Powershift ได้รับคะแนนนิยมในยุโรปปี 2023 ครั้งนี้ฟอร์ดได้เปิดตัว Ford Puma Gen-E รถไฟฟ้า EV เมื่อต้นธันวาที่ผ่านมา โดยเปิดให้จองแล้ว และจะเริ่มส่งมอบในปี 2025 Puma Gen-E ผลิตที่โรงงาน Ford Otosan ในเมืองไครโอวา ประเทศโรมาเนีย โดยใช้ชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ประกอบในโรงงานของ Ford ในเมืองเฮลวูด ที่สหราชอาณาจักร
เครื่องยนต์
Ford Puma Gen-E ระบบไฟฟ้า EV ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า ให้กำลังสูงสุด 168 แรงม้า แรงบิด 290 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 8.0 วินาที แบตเตอรี่เป็นแบบ Lithium-ion NMC ขนาด 43 kWh วิ่งได้ระยะทาง 376 กิโลเมตร เมื่อชาร์ตเต็ม และ ขับขี่ได้ระยะทางสูงสุด 523 กิโลเมตรในเมือง
กินไฟต่ำเพียง 13.1 kWh ต่อ 100 กิโลเมตร หรือ 7.63 กิโลเมตรต่อ kWh รองรับการชาร์จทั้งแบบกระแสตรง DC รองรับการชาร์จสูงสุด 100 kW 10-80% ชาร์จในเวลา 23 นาทีและชาร์จกระแสสลับ AC พร้อม One Pedal พร้อมครบครันทั้ง
Ford Puma Gen-E ปรับรูปแบบการขับขี่ได้ 4 รูปแบบ ส่วนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มีระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันตามรถยนต์คันหน้า สามารถหยุดรถจนนิ่งและออกตัวใหม่เอง รวมถึงรักษาระยะให้อยู่ในกลางช่องจราจร ปรับแต่งใหม่ให้เร่งและลดความเร็วอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น ทั้งยังมี Predictive Speed Assist ที่ปรับความเร็วล่วงหน้าก่อนเข้าโค้ง วงเวียน และทางร่วม พร้อมทำงานร่วมกับกล้องมองภาพรอบคัน เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ขับขี่ได้ แม้อยู่ในอาคารจอดรถ
ขนาดตัวถัง
- ความยาว 4,313 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,805 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,555 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,588 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 157 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,563 กิโลกรัม
- ช่องใส่ของด้านหน้า 43 ลิตร
Ford Puma Gen-E ปรับดีไซน์ใหม่ให้แตกต่างจากเวอร์ชั่นเครื่องยนต์สันดาป ด้วยการเปลี่ยนกระจังหน้าได้รับแรงบันดาลใจจาก Mustang Mach-E
ดีไซน์ภายนอก
- กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมแบบทรงทึบออกแบบใหม่ย้ายโลโก้ Ford มาอยู่ในชุดกระจังหน้า
- ไฟหน้า Dynamic Matrix LED โคมใหม่ ออกแบบไฟส่องสว่างเวลากลางวันรูปตัว C แบบ LED รับกับชุดกันชนหน้า
- ช่องระบายอากาศรูปตัว V
- กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวทรงสปูน
- ไฟท้าย LED พร้อมการออกแบบฝาท้าย
- สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรก
- กันชนหลังลงตัวเป็นหนึ่งเดียวกับลิ้นสปอยเลอร์หลัง ใต้กันชนดีไซน์ใหม่ พร้อมตราอักษร PUMA
- ล้ออัลลอยลายเฉพาะเลือกได้ทั้งขนาด 17 นิ้ว ยาง 215/55R17 ขนาด 18 นิ้วยาง 215/50 R18
ภายในห้องโดยสาร
- สี two-tone เทาตัดดำตลอดทั้งคัน
- ไฟ Ambient Lighting
- คอลโซลกลางเป็นแบบยกสูง เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของ
- แท่นชาร์จไร้สาย
- ที่วางแขนปรับสไลด์ได้
- ระบบแสดงผลมาตรวัดดิจิตอลขนาด 12.8 นิ้ว
- หน้าจอสัมผัสกลางขนาด 12.0 นิ้ว
- เชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay ไร้สาย
- เครื่องเสียง Bang & Olufsen
- ช่องเก็บของใต้ฝากระโปรงหน้าความจุ 43 ลิตร
- ช่องเก็บของ Gigabox ความจุ 145 – 574 ลิตร
ระบบความปลอดภัย เช่น
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าและระบบตรวจจับคนเดินถนน (Pre-Collision Assist with Pedestrian Detection)
- เสริมแรงเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Emergency Brake Assist)
- ตรวจวัดลมยาง (Tire Pressure Monitoring System)
- ควบคุมการทรงตัว (Electronic Stability Control)
- ช่วยจอดอัจฉริยะ (semi-autonomous parking assist)
- ปรับความเร็วอัตโนมัติอย่างนุ่มนวลขณะที่คนขับมาถึงโค้งฉับพลัน
- กล้องมองภาพรอบคัน (360-degree surround-view camera system)
- ช่วยเบรกขณะถอยหลัง (Reverse Brake Assist & Rear Cross Traffic Braking)
- ตรวจจับรถในจุดบอด (Enhanced BLIS)
ขอบคุณข้อมูล : https://fordeurope.blogspot.com/, https://car2day.com