วิธีดูแลสีรถยนต์ ล้างรถอย่างถูกต้อง ช่วยถนอมสีรถให้ดูเหมือนใหม่
ใครๆ ก็อยากให้รถของเราดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ นอกจาภายในแล้วภายนอกเป็นภาพลักษณ์สำคัญที่จะทำให้คนมองรู้สึกว่ารถของคุณดูใหม่อยู่เสมอ บางคนที่ไม่รู้จักวิธีถนอมสีตัวรถ เวลาเพียงไม่กี่ปีก็ทำให้สีหม่น ซีดเหลือง หรือหลุดลอก จะแก้ตอนนั้นก็คงต้องยกเครื่องทำใหม่รอบคัน แล้วจะทำอย่างไรให้ยืดอายุหรือถนอมสีรถให้ดูเหมือนใหม่อยู่ตลอด?
หลายคนอาจเคยได้ยิน หรือพอรู้กันมาบ้างว่า การล้างและทำความสะอาดรถเป็นประจำ เช็ดให้แห้ง ขัดเงา ลงแว็กซ์ จะเพิ่มการเคลือบป้องกันผิวรถของคุณได้ดี การรู้ว่าเมื่อไหร่ควรทำความสะอาดและเก็บรายละเอียดแต่ละส่วนตลอดทั้งปีนั้นเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน และการแว็กซ์บ่อยเกินไปก็อาจทำให้สีรถของคุณหมองคล้ำได้ จากผลดีก็อาจจะกลายเป็นผลเสียได้เช่นกัน
วิธีดูแลสีรถยนต์ ล้างรถอย่างถูกต้อง ช่วยถนอมสีรถให้ดูเหมือนใหม่
ขั้นตอนแรก : การล้างทำความสะอาดรถ
อุปกรณ์พื้นฐานที่ต้องเตรียม
- ถังน้ำ (นำมาใช้เพื่อผสมน้ำเปล่ากับน้ำยาล้างรถ)
- น้ำยาล้างรถที่ได้มาตรฐาน
- ผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือ ผ้าสะอาด
- ฟองน้ำ แปรงล้างรถ หรือ แปรงขนนุ่ม ที่ไม่ทำให้รถเป็นรอยหรือถลอก
- สายฉีดน้ำ
เคล็ดลับ : ไม่ควรล้างรถกลางแจ้ง กลางแดดแรงๆ เพราะอาจทำให้ผิวรถร้อนและแห้งเร็ว เป็นต้นตอของการเกิดคราบน้ำ ทำให้ล้างสะอาดยากขึ้น ควรล้างในที่ร่ม
ขั้นตอนที่ 1: เริ่มล้างรถของคุณด้วยน้ำสะอาด ฉีดน้ำไล่จากหลังคารถ ค่อยๆ ลงไปที่ด้านล่างของตัวรถ เพื่อล้างเอาคราบฝุ่นสิ่งสกปรกออกก่อน
ขั้นตอนที่ 2: เริ่มล้างที่ส่วนล้อรถก่อน เป็นส่วนที่สกปรกที่สุด และหากเราล้างส่วนล้อเป็นส่วนสุดท้าย บริเวณตัวรถที่ล้างทิ้งไว้อาจแห้งทิ้งคราบน้ำ ฉะนั้นแนะนำให้ล้างส่วนล้อก่อนเป็นอันดับแรก ไม่ควรใช้เวลาล้างตัวรถนาน เพราะไม่งั้นส่วนอื่นๆ ที่เราล้างไว้อาจแห้งทิ้งคราบก่อนที่จะทันได้เช็ดให้แห้ง
คำเตือน: หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาล้างจานธรรมดา สบู่ซักผ้า และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในครัวเรือนอื่นๆ สารเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อขจัดไขมันและน้ำมัน และอาจสร้างความเสียหายให้กับผิวสีรถของคุณได้ แว็กซ์ที่เคลือบตัวรถไว้ก็อาจจะลอกหลุดได้ง่าย
ขั้นตอนที่ 2 เช็ดทำความสะอาดตัวรถให้แห้ง
หลังจากล้างรถเรียบร้อยแล้ว และเช็ดทุกส่วนให้แห้ง ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดคราบน้ำบนผิวรถ และยังช่วยให้ลงแว็กซ์รถง่ายและสวยงามขึ้น
ขั้นตอนที่ 1 : เช็ดรถให้แห้งทุกส่วนทันทีหลังล้างรถเสร็จ เพื่อไม่ให้รถแห้งเองจนทิ้งคราบน้ำไว้ พยายามอย่าลากผ้าเช็ดไปทั่ว ควรเปลี่ยนหรือกลับผ้าบ่อยๆ เพราะการใช้ผ้าเช็ดไปทั่วรถ อาจทำให้เกิดรอยจากเศษสิ่งสกปรกที่อาจเกาะอยู่บนผิวรถได้
เคล็ดลับ : หลังจากล้างรถเสร็จ และกำลังจะเช็ดทำความสะอาดให้รถแห้ง ควรจอดรถไว้ในที่ร่ม ป้องกันไม่ให้ถูกแดดทำให้น้ำแห้งเป็นคราบ
ขั้นตอนที่ 2 : หลังจากเช็ดทุกส่วนจนแห้งแล้ว ควรปล่อยให้รถตากลมตากอากาศขจัดความชื้น ปล่อยให้อากาศแห้งสนิทก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการเก็บรายละเอียด หรือลงแว็กซ์รถ ไม่ควรจอดรถตากแดดจนร้อนเกินไป
ขั้นตอนที่ 3 : การทำ คาร์ ดีเทลลิ่ง (Car Detailing)
*ควรศึกษาการใช้งานอย่างถูกวิธี ขั้นตอนนี้หากยังศึกษาไม่ดีพอ จะข้ามไปก่อนก็ได้ค่ะ
อุปกรณ์ที่ควรเตรียม
- ดินน้ำมันสำหรับลูบผิวรถ (Clay bar)
- น้ำยาขัดหยาบ เก็บรอยขีดข่วน รอยขนแมว
- น้ำยาขัดสีเคลือบเงา
- ผ้าไมโครไฟเบอร์
หลังจากล้างและเช็ดรถให้แห้งแล้ว การทำ Car Detailing จะช่วยให้รถของคุณดูสะอาดและเป็นประกายจริงๆ ก่อนการแว็กซ์
ส่วนใหญ่แล้วการล้างรถทั่วไปไม่สามารถจะขจัดคราลผงสิ่งสกปรกอนุภาคเล็กๆ ที่อาจเกาะติดในผิวรถได้ ฉะนั้นการทำ คาร์ ดีเทลลิ่งจะช่วยทำความสะอาดผืนพิ้วรถได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ขั้นตอนที่ 1 : หลังจากรถแห้งแล้ว เลือกวิธีการเก็บรายละเอียดที่คุณต้องการได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ดินน้ำมันลูบรถเพื่อทำความสะอาดิ่งสกปรกที่อาจเกาะติดตัวรถของคุณอยู่ โดยไม่ลำทาย เคลียรืโค้ดของชั้นสีรถ ลงน้ำยาขัดหยาบเพื่อเก็บรอยขีดข่วนต่างๆ หรือ น้ำยาขัดเงาลงตามส่วนต่างๆ ของรถ ไม่ว่าจะเป็นขอบคิ้วยาง หลาสติกหรือโลหะ ล้อแม็ก ไฟหน้าไฟท้าย
คำเตือน: ก่อนใช้น้ำยาแต่ละอย่าง ควรศึกษาให้ละเอียด และตรวจสอบวิธีการใช้งานให้ถูกต้อง เพราะไม่งั้นอาจเสี่ยงต่อการทำลายพื้นผิวรถของคุณแทน หากไม่มั่นใจควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในส่วนนี้
ขั้นตอนที่ 2 : ใช้ผ้าขนหนูไมโครไฟเบอร์เกลี่ยสารเคลือบ หรือน้ำยาขัดเงา พื้นผิวของผ้าขนหนูไมโครไฟเบอร์จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกออกจากพื้นผิว ควรใช้การเช็ดแบบหมุนวนมากกว่าการลากยาวๆ และคอยดูความสะอาดของผ้า ไม่เช่นนั้นอาจเผลอถูวนสิ่งสกปรกที่ติดผ้าอยู่จนเอาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนผิวรถได้
เคล็ดลับ: อย่าลืมทำความสะอาดและขัดเงายางของคุณ ซึ่งเป็นหนึ่งในบริเวณที่รถมองข้ามมากที่สุด ควรทำความสะอาดขัดยางครั้งละหนึ่งเส้นเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำยาทำความสะอาดแห้งบนยางเป็นหย่อมๆ
ขั้นตอนสุดท้าย : ลงแว็กซ์รถ
หลังจากทำขั้นตอนก่อนหน้าจนเสร็จแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือการลงแว็กซ์รถ ควรลงแว็กซ์ทุกๆ 3 เดือนเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องทำทุกครั้งหลังล้างรถ หากทำขั้นตอนที่ 3 เพื่อเอาแว็กซ์ออก คุณต้องลงแว็กซ์หรือน้ำยาเคลือบอีกครั้ง เพื่อปกป้องงานสีรถของคุณ
คำเตือน: หากใช้เครื่องมือขัดสีรถ โปรดใช้ความระมัดระวังเในลงแว็กซ์รถ เพราะการใช้มากเกินไปอาจทำให้สีลอกออกได้
ขั้นตอนที่ 1 : ลงแว็กซ์โดยใช้ผ้าขนหนูไมโครไฟเบอร์ ทาให้ทั่ว ควรลงแวกซ์ทีละส่วน และปล่อยให้แว็กซ์เซ็ตตัวก่อน โปรดอ่านวิธีการใช้ และเวลาที่แว็กซ์ใช้เวลาเซ็ดตัวให้ดี
ขั้นตอนที่ 2 : ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ถูแว็กซ์วนเป็นวงกลมให้ทั่วจนกว่าจะเปลี่ยนแว็กซ์พื้นผิวทั้งหมดของรถเสร็จ
การรักษางานสีรถของคุณให้สะอาด รายละเอียด และแว็กซ์จะคงความเงางามของรถคุณนานหลายปี ซึ่งจะช่วยป้องกันการสะสมของการเกิดออกซิเดชันซึ่งในที่สุดจะนำไปสู่ความเสียหายต่อสนิม
ทางเลือกหากกลัวว่าทำเองแล้วจะไม่เวิร์ค สามารถนำรถเข้าไปศูนย์เพื่อไปขัดสี เคลือบเงาได้ทุกสามเดือน หรือตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้การเคลือบแก้วก็ช่วยรักษาพื้นผิวรถของคุณดีขึ้น ยาวนานขึ้นอีกด้วย
ข้อมูล : www.yourmechanic.com , www.tipauto.co.th
——————— Ford RMA ยินดีให้บริการ ———————
Hotline : 091-772-9899, 091-770-2177
ID Line : @fordrma.th
Link LINE : https://lin.ee/mmPcYDU
ติดต่อนับรถเข้าศูนย์บริการ : 02-407-0999
สาขากัลปพฤกษ์ : 02-416-1555
สาขาพระราม 4 : 02-713-6000
RMA พระราม3 ศูนย์ซ่อมตัวถังและสี : 02-674-3600 , 086-3400832
Google Map ฟอร์ดกัลปพฤกษ์ : https://bit.ly/3kzyvej
Google Map ฟอร์ดอาร์เอ็มเอ สาขาพระราม 4 : https://bit.ly/32OfK0T
Facebook : https://www.facebook.com/Cityfordrma/
Website : https://www.fordrma.com/