วิธีขอสินเชื่อให้ผ่านแบบชิลๆ ถ้ากู้ไม่ผ่านต้องทำอย่างไร
การขอสินเชื่อส่วนบุคคลหมายถึงการได้รับเงินจำนวนมากเพื่อใช้ในสิ่งต่างๆ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับการอนุมัติได้เนื่องจากธนาคารมีกฎเกณฑ์ที่ต้องปฏิบัติตาม หากใบสมัครสินเชื่อของคุณถูกปฏิเสธเพราะทางสถาบันการเงินเองเขาก็มีหลักในการพิจารณา มีสาเหตุหลายประการที่อาจเกิดขึ้นได้
ล่าสุดนี้มีข่าวพูดถึงเปอร์เซ็นต์การซื้อรถในตลาดรถกระบะเพื่อการพาณิชย์ลดน้อยลงมาก เนื่องจากกู้ไม่ผ่านเกินกว่า 40% จากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ
บทความนี้จะมาแนะนำว่าต้องทำอย่างไรต่อไปหากเกิดขึ้นกับคุณ
เตรียมตัวให้พร้อม เรื่องนี้สำคัญมาก
หลายท่านที่ขอสินเชื่อไม่ผ่าน ด้วยเหตุผลที่หากมีหนี้มากเกินไปหรือไม่ชำระหนี้ตรงเวลาเราก็ไม่สามารถกู้เงินได้ สิ่งสำคัญคือต้องแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ก่อนที่จะแย่ลงและหยุดไม่ให้กู้ยืมเงินในอนาคต แต่อย่างไรก็ยังสามารถยื่นขอสินเชื่อได้ เบื้องต้นเพียงแค่จัดการการชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน
วิธีหลักทั้งหมดที่เรารวบรวมมามีทั้งหมด 7 ข้อ วิธีเหล่านี้จะทำให้คุณขอสินเชื่อผ่านอย่างสบายๆ ส่วนรายละเอียดจะมีอะไรบ้าง เราได้อธิบายเป็นข้อๆ อย่างง่ายสำหรับใครที่สนใจจะกู้เงินได้เตรียมความพร้อม
- เตรียมเอกสารการขอกู้เงินให้พร้อมครบถ้วนทุกรายการ
- เป็นหนี้ให้น้อยที่สุดเพื่อโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ
- ชำระหนี้ให้ตรงเวลาอย่างสม่ำเสมอ
- มีเครดิตที่ดีไม่ติดบูโร
- มีบัตรเครดิตจะง่ายยิ่งขึ้น
- ฐานเงินเดือนก็สำคัญ
- ผู้ค้ำที่น่าเชื่อถือ
1. เอกสารต้องครบ
หลายๆ คนประสบปัญหาในการขอสินเชื่อส่วนบุคคลเนื่องจากไม่มีเอกสารที่จำเป็นครบถ้วน สินเชื่อส่วนบุคคลคือเงินที่ยืมมาจากธนาคารโดยไม่ต้องนำสิ่งของเช่นบ้านหรือรถยนต์มาเป็นหลักประกัน ธนาคารจะตัดสินใจว่าพวกเขาสามารถให้เงินกู้แก่คุณได้หรือไม่ โดยพิจารณาจากความน่าเชื่อถือทางการเงินของคุณ ด้วยเหตุนี้การมีเอกสารที่ถูกต้องเพื่อแสดงต่อธนาคารจึงเป็นสิ่งสำคัญ
บางคนอาจมีเอกสารไม่ครบตามต้องการหรืออาจไม่ต้องการแชร์ข้อมูลบางอย่างที่อาจส่งผลต่อการอนุมัติสินเชื่อ หากธนาคารมีข้อมูลไม่เพียงพอ เปอร์เซ็นต์การถูกปฏิเสธการกู้จะสูงขึ้นมาก อย่าลืมตรวจสอบเอกสารที่จำเป็นก่อนสมัครสินเชื่อส่วนบุคคล นอกจากนี้ โปรดจำไว้ว่าการขอสินเชื่อประเภทอื่นๆ จะต้องมีเอกสารที่คล้ายคลึงกัน
2. มีภาระผ่อนสินเชื่อไม่เกินมาตรฐานธนาคาร
หากคุณมีหนี้เป็นจำนวนมาก การจ่ายคืนในแต่ละเดือนอาจเป็นเรื่องยาก และอาจเป็นเรื่องยากที่จะกู้ยืมเงินเพิ่มในอนาคต ธนาคารมีกฎเกณฑ์เกี่ยวกับจำนวนหนี้ที่คุณสามารถมีได้ เทียบกับจำนวนเงินที่คุณหาได้ พวกเขาต้องการให้แน่ใจว่าคุณมีเงินเหลือเพียงพอ เช่น อาหารและบิลต่างๆ หลังจากชำระหนี้แล้ว โดยทั่วไปธนาคารต้องการให้การชำระหนี้ของคุณไม่เกิน 40% – 70% ของรายได้ของคุณในแต่ละเดือน ทั้งนี้เพื่อให้แน่ใจว่าคุณยังสามารถใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้
3. ชำระหนี้ตรงเวลา
ถ้าเราชำระหนี้ไม่ตรงเวลา อาจทำให้เรากู้เงินในอนาคตได้ยากขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าเราชำระเงินกู้ตรงเวลาอยู่เสมอ เพื่อที่ธนาคารจะไว้วางใจให้เรากู้ยืมเงินอีกครั้ง หากเราพลาดการชำระเงิน เราต้องรีบดำเนินการให้ทันและแสดงให้ธนาคารเห็นว่าเรายังชำระเงินได้ตรงเวลา ด้วยวิธีนี้เราจะไม่มีปัญหาในการขอสินเชื่อเมื่อเราต้องการ
4. ต้องไม่ติดเครดิตบูโร
การสูญเสียประวัติเครดิตทางการเงินของคุณ หมายความว่าคุณไม่สามารถกู้ยืมเงินจากธนาคารได้เนื่องจากคุณยังไม่ได้ชำระหนี้ตรงเวลา หากสิ่งนี้เกิดขึ้น คุณจะต้องทำงานเพื่อชำระหนี้ของคุณในอีกสามปีข้างหน้าโดยไม่พลาดการชำระเงินใดๆ หากคุณประสบปัญหาในการชำระหนี้ ให้พูดคุยกับธนาคาร ธนาคารอาจช่วยคุณวางแผนเพื่อให้คุณชำระหนี้คืนได้ง่ายขึ้น
5. มีประวัติกู้เงินอย่างบัตรเครดิตจะง่ายขึ้น
หากเราไม่เคยขอสินเชื่อมาก่อนก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีเพราะเราไม่น่าจะมีประวัติไม่ดีหรือมีหนี้สินมากนัก อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีใครยืนยันข้อมูลนี้ แต่เมื่อพิจารณาจากกฎเกณฑ์ของธนาคารแล้ว ไม่มีแนวทางเฉพาะเจาะจงว่าใครได้รับการอนุมัติ และใครไม่ได้รับการอนุมัติ การไม่เคยมีหนี้มาก่อนเลยตัดสินใจกู้เงินนั้นง่าย ธนาคารนิยมปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ที่มีประวัติชำระหนี้ตรงเวลาง่ายกว่าหากไม่มีประวัติเลย อาจจะทำให้การอนุมัติเงินกู้ทำได้ยากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นเงินจำนวนมาก
หากในอนาคตคุณมีแพลนต้องการกู้ยืมเงินจากธนาคาร คุณสามารถเริ่มต้นด้วยการรับบัตรเครดิต ใช้บัตรเพื่อซื้อสิ่งของและชำระเงินทั้งหมดที่คุณเป็นหนี้ตรงเวลา ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารเห็นว่าคุณสามารถชำระคืนเงินกู้ได้อย่างน่าเชื่อถือและเพิ่มเปอร์เซนต์ในการอนุมัติอย่างง่ายดายนั่นเอง
6. ฐานเงินเดือน
ธนาคารหลายแห่งมักจะอนุมัติเฉพาะสินเชื่อส่วนบุคคลสำหรับผู้ที่มีรายได้มากกว่า 15,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ธนาคารบางแห่ง เช่น ธนาคารกสิกรไทย เสนอสินเชื่อส่วนบุคคลสำหรับผู้ที่ทำรายได้เพียง 7,500 บาทต่อเดือน สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบข้อกำหนดก่อนสมัครขอสินเชื่อเพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีคุณสมบัติ
7. ผู้ค้ำประกันต้องมีประวัติทางการเงินที่ดี
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้การขอสินเชื่ออาจไม่ได้รับการอนุมัติคือผู้ค้ำประกันอาจมีคุณสมบัติที่ไม่ผ่านเกณฑ์ ดังนั้นเราจะมาพูดถึงคุณสมบัติของผู้ค้ำประกันที่ควรมีกัน อย่างแรกต้องมีความน่าเชื่อถือมากเพียงพอ ที่อยู่และข้อมูลติดต่อที่ชัดเจน การงานมั่นคงหรือที่เรียกว่ารายได้ที่มั่นคงนั่นเอง อย่างเช่น ข้าราชการ หรือพนักงานประจำเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับผู้ขอสินเชื่อ และสุดท้ายสำคัญมากคือประวัติทางการเงินที่ดี เนื่องจากจะต้องรับประกันว่าจะสามารถชำระหนี้แทนผู้ขอได้ ผู้ค้ำจึงต้องมีประวัติทางการเงินที่ดี ไม่เคยมีประวัติค้างชำระมาก่อนนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูล : www.refinn.com