ทริคตรวจเช็คยางรถยนต์ จากทีมช่างมืออาชีพ

ทริคตรวจเช็คยางรถยนต์ จากทีมช่างมืออาชีพ

อย่างที่ใครหลายคนนิยามไว้ว่า ‘มีรถเหมือนมีภาระ’ ต้องดูแลนู่นนี่นั่นอย่างไม่จบสิ้น นั่นคือนิยามที่ถูกต้องแล้ว เพราะรถยนต์แต่ละคันต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดจริงๆ ไม่ใช่แค่เพียงการต่อภาษีประจำปี หรือสภาพภายนอก แต่ยังต้องการการดูแลทุกส่วนอย่างเป็นประจำ ซึ่งการตรวจเช็คเป็นประจำสามารถลดภาระได้ในกรณีที่รถเสื่อมสภาพเร็วเกินกว่ากำหนดได้ โดยทั่วไปแล้วเราควรให้ความใส่ใจต่อการตรวจเช็คยางรถยนต์ น้ำมันเครื่อง ผ้าปัดน้ำฝน แบตเตอรี่ และจำพวกไส้กรองชริดต่างๆ เช่น ไส้กรองอากาศ ไส้กรองน้ำมันเครื่อง หากส่วนใดทำงานผิดปกติอาจะส่งผลต่อทัศนวิสัยการขับขี่ได้ ทางที่ดีเราควรใส่ใจเรื่องรถยนต์ก่อนได้รับความสูญเสีย

อันที่จริงแล้วยางรถยนต์มีหลากหลายประเภทตามลักษณะการใช้งาน โดยปัจจุบันยางสามารถตอบสนองการใช้งานแต่ละประเภทได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะต้องการเน้นเรื่องสมรรถนะในการขับขี่ ประหยัดน้ำมัน สายลุยแบบ OFF ROAD นุ่มแบบเก็บเสียง ผู้ผลิตต่างก็ให้ความสำคัญและพัฒนาให้ทันต่อเทรนการขับขี่ตลอดเวลา ซึ่งยางรถยนต์สามารถแบ่งได้ 3 ประภทใหญ่ๆ ดังนี้

• Highway Terrain เป็นยางรถยนต์ชนิดที่เหมาะสำหรับ CITY CAR ทั่วไปโดยเฉพาะ หรือการขับขี่ในชีวิตประจำวันทั่วไป นุ่มและเงียบ

• All Terrain ยางรนยนต์ที่เหมาะสำหรับรถกระบะโดยเฉพาะ นื่อจากมีดอกยางที่กว้างและใหญ่กว่าแบบ Highway Terrain ทำให้สมรรถนะการขับขี่ดีกว่าเดิม แข็งแรงและไปในพื้นที่ที่ขรุขระได้

• Mud Terrain มีความสามารถในการลุยโคลนได้อย่างดีเยี่ยม เหมาะสำหรับสาย OFF-ROAD โครงสร้างแข็งแกร่งที่สุด เนื่องจากดอกยางมีลักษณะนูนออกมา จึงทำให้สามารถตะกุยดินได้อย่างดีเยี่ยม 

เพื่อสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมดอกของยางรถยนต์แต่ละชนิดจึงออกแบบมาอย่างไม่เหมือนกัน ซึ่งลักษณะที่แตกต่างกันนั้นส่งผลให้ความสามารถในการยึดถนนต่างกันไปด้วย โดยทั่วไปแล้วดอกยางถูกแบ่งตามการใช้งานได้ 4 ประเภท 

• Rib Pattern ดอกยางแบบละเอียด รีบน้ำได้เร็ว เสียงเงียบ มักเป็นดอกยางสำหรับยางประเภท Highway Terrain
• Lug Pattern ดอกยางแบบบั้ง ร่องยางลึก สามารถใช้งานได้ทั้งพื้นผิวขรุขระและเรียบเนียนได้ 
• Rib Lug Pattern ดอกยางแบบผสม โดยผสมผสานยางแบบละเอียดและแบบบั้งไว้ในเส้นเดียวกัน เหมาะสำหรับการหลากหลายพื้นผิวสลับกันอย่างเป็นประจำ 
• Block Pattern ดอกยางแบบบล็อก มีลักษณะพิเศษเป็นก้อนนูนออกมา เหมาะสำหรับการตะลุยไปในพื้นที่ที่มีความหฤโหดสูง อย่างเส้นทาง OFF-ROAD 

CHECKLIST เช็คความผิดปกติของยาง

สร้างนิสัยการตรวจเช็คยางรถยนต์เป็นประจำอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อสังเกตความผิดปกติของยางรถยนต์ดังกล่าว ซึ่งไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยตาเปล่าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ขณะที่กำลังขับขี่ก็สามารถรับรู้การทำงานที่ผิดปกติไปจากเดิมได้ เพื่อความปลอดภัยต่อผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วกัน วันนี้เรารวบรวม CHECKLIST เอาไว้ตรวจเช็คยางรถยนต์ด้วยตัวเองง่ายๆ ที่บ้าน

• ยางมีรอยแตกร้าว รอยแตกรอบยางรถยนต์เป็นสิ่งแรกที่เราสามารถเห็นได้อย่างรูปธรรม ซึ่งรอยแตกของยางจะมีลักษณะคล้ายรอยร้าว หรือแตกเป็นเส้น

• เนื้อยางหยาบกระด้าง สันนิฐานบ้างต้นหากยางที่มีสัมผัสแข็ง เริ่มมีเสียงขณะเบรค สามารถตรวจสอบด้วยตัวเองได้โดยการจิกเล็บบนหน้ายาง หากไม่ทิ้งรอยแสเงว่ายางเสื่อมสภาพ

• ยางบวมนูน จำเป็นจะต้องเปลี่ยนยางเร็วที่สุดเท่าที่เร็วได้ เพราะถ้าขับรถด้วยอย่างที่มีลักษณะดังกล่าวทำให้แบนหรือระเบิดระหว่างทางได้ 

• อายุของยาง มีหลักการง่ายๆ ในการดูอายุของยางแต่ละเส้น ส่วนมากแล้วอายุของยางมักอยู่บริเวณแก้มยาง และจะมีเลข 4 หลัก เพื่อบอกอายุและปีที่ผลิต 2 หลักแรก หมายถึง สัปดาห์ที่ผลิตยาง และ 2 หลักหลัง หมายถึง ค.ศ. ที่ผลิต

• สะพานยาง หรือดอกยางตื้นเขิน จุดสังเกตอยู่ตรงบริเวรหน้ายาง หากดอกยางและสะพานยางอยู่ในระดับเท่ากัน นั่นแสดงว่าดอกยางกำลังสึก ส่งผลต่อการรีดน้ำในกรณีที่ฝนตก

เตรียมตัวอย่างไรไปเปลี่ยนยาง

หลังจากที่ได้ตรวจเช็คยางรถตาม CHECKLIST ด้านบนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หรืออายุการใช้งานสมควรแก่การเปลี่ยนยางใหม่ คุณสามารถนำลิสต์ดังกล่าวมาประกอบการตัดสินใจในการเปลี่ยนยาง ซึ่งก่อนเปลี่ยนยางต้องทำการบ้านสักเล็กน้อย เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าอย่างที่สุด เราแนะนำให้ทำการนัดหมายในการเปลี่ยนเสียก่อน เพื่อความสะดวกในการจัดแจงเวลาและเตรียมช่องทางการชำระเงิน 

• ทำการนัดเวลากับศูนย์บริการเพื่อเข้ารับการเปลี่ยนยาง
• BE REMIND! ว่าขนาดยาง, ยี่ห้อ, รุ่น , ดัชนีความเร็วและดัชนีบรรทุกของรถคุณ
• เลือกชนิดของยางและดอกยางให้เหมาะสมกับการใช้งานจริง
• เพื่อความสมดุลควรใช้ยางรุ่นเดียวกันและยี่ห้อเดียวกันทั้ง 4 ล้อ 

โดยค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนยางแต่ละครั้งนั้น ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ชนิด และขนาดของแต่ละคัน อีกมุมมองหนึ่งที่ควรเปลี่ยนยางรถยนต์แม้จะไม่ตรงกับ CHECKLIST การตรวจเช็คยางรถยนต์ด้านบนก็ตาม คือ เมื่อยางรถยนต์มีอายุการใช้งานประมาณ 2 ปีการใช้งานเป็นต้นไป หรือมีระยะทางการขับขี่มากกว่า 10,000 กิโลเมตร เพื่อเข้าทำการตรวจเช็คยางหรือตรวจช่วงล่วงให้ใช้งานได้ปกติเหมือนเดิม สำหรับการเลือกยางที่ถูกต้องนั้น เราแนะนำให้เลือกยางที่ตรงกับการใช้งาน และไม่หลุดสเปกจากเส้นเก่ามากนั้น ซึ่งอาจจะเกิดความสับสนได้เนื่องจากสมัยนี้มียางให้เลือกเยอะแยะไปหมด หากเลือกยางผิดขนาดสามารถส่งผลเสียต่อการบังคับและขับขี่ได้เลยทีเดียว

รีวิวศูยน์บริการ Ford RMA ตรวจเช็คยางรถยนต์ ด้วยทีมช่างมืออาชีพ

เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนยางหรือเช็คการทำงานของช่วงล่างหลังจากที่ครบกำหนดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คำถามแรกที่แล่นเข้ามาในหัวเลยคือ ‘ไปศูนย์บริการไหนดี’ ศูนย์บริการ Ford RMA ความประทับใจของลูกค้าที่ถูกส่งต่อกันหลายยุคสมัย ด้วยทีมช่างฝีมือระดับมืออาชีพ จึงทำให้การเปลี่ยนยางหรือตรวจเช็คยางกลายเป็นเรื่องง่าย ซึ่งทุกคนต่างก็ผ่านการอบรมก่อนลงสนามจริงทุกครั้ง รวมถึงมาตรฐานการปฏิบัติงาน งานสมบูรณ์แบบด้วยครื่องมือทันสมัย จากประสบการณ์การทำงานที่สั่งสมมาจนตกผลึก นี่คือสาเหตุว่าทำไมศูนย์บริการ Ford RMA จึงเหมาะสมสำหรับตรวจเช็คยางรถยนต์รวมไปถึงบริการประเภทอื่นๆ 

• ทีมช่างชำนาญการ พร้อมรับกับทุกบริการจากความความรู้และประสบการณ์
• รักษาระดับการให้บริการ การันตีจากศูนย์บริการ Ford RMA
• เข้าใจความต้องการของลูกค้าแต่ละจุดอย่างแท้จริง
• FULL SERVICE MIND ตั้งแต่พนักงานจนถึงห้องรับรองลูกค้าสุดพรีเมียม
• ทันสมัยด้วยเครื่องมือมาตรฐานระดับนานาชาติ
• ราคาเป็นมิตร พร้อมบริการผ่อน 0% ที่จะทำให้คุณสบายกระเป๋าไปได้เยอะ

 เทคนิคการดูแลยางเพื่อยืดอายุการใช้งาน

แน่นอนว่าการเปลี่ยนยางหนึ่งครั้งสามารถทำกระเป๋าเบาได้เลย ซึ่งแท้จริงแล้วยางรถยนต์ก็มีเทคนิคการดูแลเพื่อยืดอายุการใช้งานเป็นพิศษ เพื่อให้ใช้ยางได้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงที่สุด ถึงอย่างไรก็ตามหากว่ายางมีท่าทีว่าสมควรได้รับการเปลี่ยน ก็ควรเปลี่ยนดีกว่าขับๆ ไปแล้วเกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง ทำให้เสียทั้งเงินและเวลา

• สลับยาง เป็นเทคนิคที่นิยมทำต่อเนื่อกันมาหลายยุคสมัย แต่มีข้อแม้อย่างเดียวว่ายางทั้ง 4 เส้นของคุณมีความสมดุลกัน สามารถเริ่มสลับยางได้ตั้งแต่ทุกๆ 6 เดือน หรือสลับยางทุกๆ  10,000 กิโลเมตร
• ความดันลมคงที่ ไม่ได้หมายความว่าต้องเท่าเดิมอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น ซึ่งเราควรให้ความสำคัญและสม่ำเสมอในการเช็คลมยางเป็นประจำแย่างน้อยทุกๆ  2-4 สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรเพิ่มลมยางสูงหากไม่มีความจำเป็น 
• เติมลมยางอย่างพอดี ตรวจสอบลมยางอย่างน้อยทุกหนึ่งสัปดาห์ในช่วงก่อนใช้งาน โดยสามารถสังเกตค่าเติมลมที่รองรับได้ตากบริเวณเสากรอบประตูด้านคนขับ ลมยางที่อ่อนส่งผลให้ยางรถยนต์มีการทำงานหนักมากกว่าปกติ มีอายุการใช้งานที่สั้นลง 
  • รถ CITY CAR ทั่วไป ควรเติมลมยางประมาณ 25-32 PSI
  • รถ CITY CAR ขนาดกลาง ควรเติมลมยางประมาณ 30-35 PSI
  • รถกระบะ ควรเติมลมยางประมาณ 38-40 PS
• หลีกเลี่ยงพฤติกรรมการขับแบบกระชากตัว เหยียบเบรกหนัก เข้าโค้งด้วยความเร็วสูง พฤติกรรมดังกล่าวสามารถส่งผลเสียโดยตรงต่อยางรถยนต์และระบบต่างๆ ของเครื่องยนต์ได้
• เลือกยางให้เหมาะสมต่อลักษณธการใช้งาน ความยาวเส้นรอบวงที่ควรเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุด การเปลี่ยนขนาดยางใหญ่ขึ้น จะมีผลโดยตรงต่อการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นโดยใช่เหตุ ทำให้คุ้มพวงมาลัยรถยนต์ได้ยาก และควรเลือกตามลักษณะพื้นผิวถนนที่ใช้บ่อยที่สุด
• ปรับการตั้งศูนย์และถ่วงล้อ หากละเลยขั้นตอนนี้ อาจส่งผลต่อทิศทางการขับขี่ที่ผิดเพี้ยนไป หากปล่อยมือออกจากพวงมาลัยขณะที่กำลังขับทางตรง พบว่าพวงมาลัยมีการเอียงไปทางทิศทางใดทิศทางหนึ่ง นั่นแสดงว่าศูนย์ถ่วงล้อเบี้ยว สามารถรับบริการตั้งจุดศูนย์ถ่วงได้ตามศุนย์บริการทั่วไป

เตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนยางอะไหล่ฉุกเฉิน

เหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นมากที่สุด คือ รถเสีย เครื่องยนเสีย หม้อน้ำแห้ง หรือยางแตกระหว่างการเดินทาง กุมหัวใจเอาไว้ให้แน่นเพราะทุกปัญหามีทางออกเสมอ หากคุณกำลังกำลังเดินทางไกล หรือมีพฤติกรรมการขับในพื้นที่เสี่ยงให้เกิดความเสียหายต่อยาง เราขอแนะนำทริคสำหรับนักสู้ชีวิตชาวเรา คือ แนะนำให้พกยางอะไหล่และอุปกรณ์ฉุกเฉินติดรถไว้ เมื่อเกิดเหตุการไม่คาดถึงจะได้จะได้ซ่อมได้อย่างทันเวลา ยางอะไหล่เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินที่สำคัญ แต่ต้องทำความเข้าใจว่ายางอะไหล่เป็นเพียงอุปกรณ์ทดแทนเท่านั้น ไม่สามารถใช้งานได้ยาวนานเหมือนยางเส้นปกติเท่าไป ขับได้ที่ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพียงเท่านั้น เปลี่ยนยางอะไหล่ใช้อุปกรณ์เพียง 3 ชิ้น สำหรับการเปลี่ยนยาง คือ แม่แรง ยางอะไหล่ และบล็อกถอดล้อ

• ตั้งสติแล้วค่อยขับรถเข้าข้าทาง พร้อมเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อเป็นสัญญาณบอกกคันข้างหลัง
• เข้าเกียร์ P และดังเบรกมือเพื่อบป้องกับรถไหลตกข้างทาง
• ตรวจสภาพความเสียหายเบื้องต้นว่ายางล้อไหนได้รับความเสียหาย
• เตรียมอุปกรณ์สำหรับเปลี่ยนยางอะไหล่ให้พร้อมใช้งาน
• เริ่มทำการถอดล้อเก่าออกด้วยหมุนน็อตออกจากล้อแม็กซ์ วิธีการนี้ต้องออกแรงพอสมควร 
• วางแม่แรงไว้ใต้จุดยกแม่แรง เสียบก้านหมุนแล้วหมุนจนล้อลอยพื้น
• คลายน็อตออกจากล้อเดิม แล้วทำการใส่ล้ออะไหล่เข้าไป
• ขันน็อตใส่ล้ออะไหล่เข้าที่เดิม ให้ใช้มือขันน็อตเข้าไปที่ยางอะไหล่ให้สุด

หลังจากที่เราได้สลับเป็นยางฉุกเฉินแล้ว สิ่งที่ควรทำเป็นขั้นตอนถัดไปคือ นำยางที่เกิดอุบัติเหตุนั้นไปซ่อมสามารถกลับมาใช้งานได้ปกติ แล้วทำการเปลี่ยนกลับไปยังตำแหน่งเหมือนเดิม ทีมช่างมืออาชีพจาก FORD RMA พร้อมให้บริการทุกขั้นตอนตั้งแต่ซ่อมยางอะไหล่ไปจนถึงประกอบกลับอย่างปลอดภัย แต่วิธีการป้องกันที่ดีสุดคือการตรวจเช็คอยู่เป็นประจำ

ยางรถยนต์เป็นสิ่งควรได้รับความดูแลในระดับหนึ่ง โดยสามารถเช็คยางรถยนต์อย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อคอยสังเกตการเปลี่ยนแปลงของยางอย่างใกล้ชิด จาก CHECKLIST การตรวจเช็คยางรถยนต์ที่เราได้รวบรวมไว้ หากพบว่ายางรถยนต์ปรากฎความผิดปกติมากกว่า 3 ใน 5 ให้รีบเปลี่ยนยางรถโดยด่วน และควรได้รับการตรวจเช็คอย่างรถยนต์อย่างเป็นประจำ เพราะยางรถรยนต์เป็นสิ่งที่แบกรับน้ำหนักของรถทั้งหมดไว้ รวมถึงแบกรับความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนอีกด้วย ศูนย์บริการมาตรฐาน FORD RMA เข้าถึงลูกค้าทุกระดับ ด้วยราคาสุดเป็นมิตรและสามารถผ่อน 0% ได้นานสูงสุด 10 เดือน การันตีความปลอดภัยด้วยทีมช่างฝีมือคุณภาพ

ขอบคุณข้อมูล : https://youtu.be/xz21zYtKq40 , www.autospinn.com/

——————— Ford RMA ยินดีให้บริการ ———————

ติดต่อรับรถเข้าศูนย์บริการ : 02-407-0999
ID Line : @fordrma.th
Link LINE : https://lin.ee/mmPcYDU
ฟอร์ดกัลปพฤกษ์ : 02-416-1555
ฟอร์ดพระราม4 : 02-713-6000
ฟอร์ดราชพฤกษ์ พระราม5 : 02-432-6599
Google Map ฟอร์ดกัลปพฤกษ์ : https://g.page/FordKalpapruek?share
Google Map ฟอร์ดอาร์เอ็มเอ สาขาพระราม 4 : https://g.page/FordRama4RMA?share
Google Map ฟอร์ดราชพฤกษ์ พระราม5 : https://g.page/fordrama5?share
Facebook : https://www.facebook.com/Cityfordrma/
Website : https://www.fordrma.com/