รับมือ “โรคฮีทสโตรก” ภัยคุกคามหน้าร้อน อันตรายถึงชีวิต!
เข้าสู่เดือนเมษายนที่ขึ้นว่าอากาศร้อนที่สุด โดยอุณหภูมิสูงสุดทะลุ 40 องศาเซลเซียส สิ่งหนึ่งที่ทุกคนควรต้องเตรียมรับมือ คือความเสี่ยงที่จะเกิด “โรคลมแดด หรือ ฮีทสโตรก” (Heat Stroke) เพราะถือเป็นภาวะที่มีความอันตรายถึงชีวิตได้เลยทีเดียว
โรคฮีทสโตรก คืออะไร?
โรคลมแดด เกิดจากการอยู่ในสถานที่ ที่มีอากาศร้อนจัด จนร่างกายไม่สามารถรักษาอุณหภูมิของร่างกายอยู่ในเกณฑ์ปกติได้ ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบประสาท หัวใจ และไต จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตได้
โดยกลุ่มที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ นักกีฬาหรือทหารที่ต้องฝึกหนักในอากาศร้อนจัด รวมไปถึงผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคอ้วน ฯลฯ
โรคลมแดด สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- โรคลมแดดที่เกิดจากความร้อนในสิ่งแวดล้อมที่สูงเกินไป สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย รวมไปถึงเกิดจากยารักษาโรคบางชนิด และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- โรคลมแดดที่เกิดจากการใช้กำลังหนัก ได้แก่ การออกกำลังกายที่หักโหมเกินไป มักเกิดขึ้นกับนักกีฬา หรือทหารที่ฝึกฝนหนักท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด
อาการของโรคฮีทสโตรก
โรคลมแดดจะแสดงอาการ ภายหลังจากอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนจัดเป็นเวลานาน โดยสามารถสังเกตอาการได้ดังนี้
- ร่างกายมีอุณหภูมิสูงเกิน 40.5 องศาเซลเซียส
- มีอาการวิงเวียนศีรษะ อ่อนแรง และคลื่นไส้
- ระบบประสาทเกิดความผิดปกติ มีอาการกระสับกระส่าย พูดช้า สับสน ชัก เพ้อ หมดสติ
- ต่อมเหงื่อทำงานผิดปกติ
- ผิวหนังและหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง
- เหนื่อย หายใจเร็ว ใจสั่น ชีพจรเต้นเร็วผิดปกติ
วิธีปฐมพยาบาลผู้ป่วยโรคลมแดดเบื้องต้น
ต้องทำการลดอุณหภูมิภายในร่างกายของผู้ป่วยให้เร็วที่สุด หากอยู่กลางแดด ควรรีบย้ายผู้ป่วยเข้าร่ม ให้นอนราบยกเท้าทั้งสองข้างขึ้นสูง จากนั้นถอดเสื้อเพื่อระบายความร้อน ทำให้ร่างกายเย็นขึ้นด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น เช็ดตัวด้วยน้ำเย็น บริเวณหลังคอ ข้อพับ และขาหนีบ เป่าพัดลม เปิดแอร์ ให้ดื่มน้ำและน้ำเกลือแร่ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ และป้องกันไม่ให้ร่างกายสูญเสียเกลือแร่ หากผู้ป่วยมีอาการหนัก ให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดโรคลมแดด
- สวมใส่เสื้อผ้าที่โปร่งสบาย ไม่หนา สามารถระบายความร้อนได้ดี จะช่วยให้ร่างกายรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมได้
- สวมหมวก หรืออุปกรณ์บังแดด และทาครีมกันแดด
- ไม่ปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ ดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่มากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในรถที่จอดกลางแดด เพราะอุณหภูมิภายในรถ สามารถเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาไม่นาน
- ควรออกกำลังกาย ในช่วงรุ่งเช้า หรือตอนเย็น หลีกเลี่ยงช่วงกลางวันที่มีแดดร้อนจัด
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรหมั่นสังเกตอาการของตนเองตลอดเวลา
วิธีป้องกันลืมเด็กไว้บนรถ เสี่ยงเสียชีวิตจากฮีทสโตรก
กรณีเด็กติดในรถยนต์เสียชีวิต กลายเป็นอุทาหรณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วงหน้าร้อน สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความสูญเสีย เป็นเพราะอุณหภูมิในรถยนต์ สามารถเพิ่มสูงขึ้นได้เร็วมาก โดยความร้อนภายในรถ จะสูงมากกว่าภายนอกถึง 20 องศาเซลเซียส แม้จะแง้มหน้าต่างไว้ อุณหภูมิก็ยังสูงขึ้นได้เช่นกัน
เมื่ออุณภูมิในร่างกายสูงถึง 40 องศาฯ จะทำให้เกิดอาการโรคลมแดดขึ้น ซึ่งหากเกิดขึ้นกับเด็กเล็ก ก็จะทำให้เสียชีวิตภายในเวลาเพียง 30 นาที เนื่องจากเด็กทนต่อภาวะนี้ได้น้อยกว่าผู้ใหญ่นั่นเอง ดังนั้นผู้ปกครองควรต้องเพิ่มความระมัดระวัง ไม่ปล่อยเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยงไว้ในรถเพียงลำพัง เพราะแม้จะเป็นเวลาไม่นาน ก็สามารถเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้แนะนำวิธีป้องกันการลืมเด็กในรถ 3 ข้อ ได้แก่
- นับ : นับจำนวนเด็กก่อนขึ้นและหลังลงจากรถทุกครั้ง
- ตรวจตรา : ก่อนล็อกประตูรถ ตรวจดูให้ทั่วรถ
- อย่าประมาท : อย่าทิ้งเด็กไว้เพียงลำพังแม้ช่วงเวลาสั้น ๆ
——————— Ford RMA ยินดีให้บริการ ———————
ติดต่อรับรถเข้าศูนย์บริการ : 02-407-0999
ID Line : @fordrma.th
Link LINE : https://lin.ee/mmPcYDU
ฟอร์ดกัลปพฤกษ์ : 02-416-1555
ฟอร์ดพระราม4 : 02-713-6000
ฟอร์ดราชพฤกษ์ พระราม5 : 02-432-6599
ฟอร์ด หัวหมาก : 085-661-2488
Google Map ฟอร์ดกัลปพฤกษ์ : https://g.page/FordKalpapruek?share
Google Map ฟอร์ดอาร์เอ็มเอ สาขาพระราม 4 : https://g.page/FordRama4RMA?share
Google Map ฟอร์ดราชพฤกษ์ พระราม5 : https://g.page/fordrama5?share
Facebook : https://www.facebook.com/Cityfordrma/
Website : https://www.fordrma.com/